• เลือกคอลัมน์หรือแถว (หรือ เลือกช่วงของเซลล์) ที่มีข้อมูลที่คุณต้องการดู

  การคำนวณแบบเร่งด่วนของเซลล์เหล่านั้นจะปรากฏที่ด้านล่างสุดของหน้าต่าง ตัวอย่างเช่น ผลรวม ค่าเฉลี่ย ค่าต่ำสุด ค่าสูงสุด หรือจำนวน

  

คุณสามารถค้นหาผลรวม ค่าเฉลี่ย ขั้นต่ำ ขั้นสูง จำนวน หรือผลผลิตของช่วงของเซลล์ได้

1. ปฏิบัติตามวิธีใดวิธีหนึ่งต่อไปนี้:

   • เลือกช่วงของเซลล์ที่คุณต้องการให้รวมไว้ในฟังก์ชั่นของคุณ Numbers จะเลือกเซลล์ผลลัพธ์ตามการเลือกของคุณ

   • เลือกเซลล์ที่จะแสดงผลลัพธ์ของฟังก์ชั่น คุณไม่สามารถแทรกฟังก์ชั่นในเซลล์หัวตารางได้

2. คลิก ฟังก์ชั่น ใน แถบเครื่องมือ จากนั้นเลือกฟังก์ชั่น

3. หากคุณต้องการเปลี่ยนช่วงของเซลล์ ให้คลิกสองครั้งที่เซลล์ผลลัพธ์ เซลล์ที่ใช้ในฟังก์ชั่นจะถูกไฮไลท์ และตัวแก้ไขสูตรจะปรากฏ ปฏิบัติตามวิธีใด ๆ ต่อไปนี้:

   • ปรับขนาดเซลล์ส่วนที่เลือก: ลากจุดสี

   • การย้ายส่วนที่เลือก: ลากขึ้นหรือลงเพื่อเปลี่ยนแถวที่จะใช้ หรือลากไปทางขวาหรือทางซ้ายเพื่อเปลี่ยนคอลัมน์ที่จะใช้ การย้ายส่วนที่เลือกจะไม่เปลี่ยนหมายเลขของเซลล์ที่เลือกไว้

4. คลิก เพื่อบันทึกการเปลี่ยนแปลงของคุณ

   หากคุณคลิก คุณจะออกจากเซลล์ปัจจุบันโดยไม่ได้บันทึกการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ที่คุณทำ

คุณสามารถใช้ฟังก์ชั่นทางคณิตศาสตร์ใด ๆ จากที่กำหนดไว้ให้ล่วงหน้า 250 แบบที่รวมอยู่ใน Numbers เพื่อสร้างสูตรได้ ตัวเลือกหาฟังก์ชั่น มีตัวอย่างซึ่งแสดงวิธีการทำงานของฟังก์ชั่นมาให้เพื่อช่วยให้คุณเลือกฟังก์ชั่นที่เหมาะกับความต้องการของคุณ

1. คลิกเซลล์ที่คุณต้องการให้ผลลัพธ์ของฟังก์ชั่นปรากฏ จากนั้นป้อนเครื่องหมายเท่ากับ (=)

   

   คุณยังสามารถคลิกที่ฟังก์ชั่น ใน แถบเครื่องมือ จากนั้นคลิกสร้างสูตร

   ตัวแก้ไขสูตรจะเปิดขึ้น และหน้าต่างเลือกฟังก์ชั่นจะปรากฏขึ้นทางด้านขวาของหน้าต่าง ลากด้านซ้ายของตัวแก้ไขสูตรเพื่อย้าย

2. ป้อนชื่อฟังก์ชั่น (หรือคำที่เกี่ยวข้องกับฟังก์ชั่น เช่น “ระยะเวลา”) ในช่องค้นหาที่ด้านบนสุดของหน้าต่างเลือกฟังก์ชั่น หรือเลือกดูฟังก์ชั่นที่มีให้ใช้ จากนั้นคลิกสองครั้งที่ชื่อของฟังก์ชั่นที่คุณต้องการ

   ฟังก์ชั่นจะปรากฏในตัวแก้ไขสูตรที่มีอาร์กิวเมนต์ที่ต้องการและที่ไม่จำเป็นทั้งหมดสำหรับฟังก์ชั่น

   

   เมื่อคุณแก้ไขเซลล์ที่มีสูตร มุมมองเซลล์อัจฉริยะที่ด้านล่างสุดของหน้าต่างจะแสดงผลลัพธ์ของสูตร ค่าการอ้างอิงเซลล์ ข้อผิดพลาด และคำเตือน แก่คุณ

3. เลือกอาร์กิวเมนต์ในฟังก์ชั่น จากนั้นป้อนค่า หรือเลือกเซลล์ที่จะรวมไว้ในการคำนวณโดยการปฏิบัติตามวิธีใดวิธีหนึ่งต่อไปนี้:

   • การเลือกเซลล์: คลิกเซลล์

   • เลือกช่วงของเซลล์ตลอดหลายแถวและคอลัมน์: ลากผ่านช่วงของเซลล์ที่คุณต้องการที่จะรวม

   • เพิ่มค่าของคอลัมน์หรือแถวเดียว: คลิกแถบที่ด้านบนสุดของคอลัมน์หรือด้านซ้ายของแถว หรือเลือกเซลล์ทั้งหมดในคอลัมน์หรือแถว

4. กด Return หรือคลิก ในตัวแก้ไขสูตรเมื่อคุณทำเสร็จ

   หากคุณคลิก คุณจะออกจากเซลล์ปัจจุบันโดยไม่ได้บันทึกการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ที่คุณทำ

หากมีข้อผิดพลาดในสูตรของคุณ จะปรากฏขึ้นในเซลล์ผลลัพธ์ คลิกที่ผลลัพธ์เพื่อดูข้อความข้อผิดพลาด

คุณสามารถแก้ไขฟังก์ชั่นที่มีอยู่เพื่อให้อ้างอิงไปยังเซลล์อื่นได้

1. แตะสองครั้งที่เซลล์ผลลัพธ์ที่มีสูตรที่คุณต้องการแก้ไข

   ตัวแก้ไขสูตรจะเปิดขึ้นและแสดงฟังก์ชั่น ลากด้านซ้ายของตัวแก้ไขสูตรเพื่อย้าย

2. ปฏิบัติตามวิธีใด ๆ ต่อไปนี้:

   • เปลี่ยนการอ้างอิงเซลล์: เลือกที่อยู่เซลล์ที่มีอยู่ที่คุณต้องการจะเปลี่ยน จากนั้นเลือกเซลล์ใหม่

   • เอาการอ้างอิงเซลล์ออก: วางจุดแทรกลงภายในพื้นที่อาร์กิวเมนต์สำหรับฟังก์ชั่นนั้น เลือกการอ้างอิงเซลล์ที่ไม่ต้องการ จากนั้นกด Delete

   • เพิ่มการอ้างอิงเซลล์เพิ่มเติม: วางจุดแทรกลงภายในพื้นที่อาร์กิวเมนต์สำหรับฟังก์ชั่นนั้น จากนั้นเลือกเซลล์ใหม่ที่คุณต้องการจะเพิ่ม

3. กด Return หรือคลิก ในตัวแก้ไขสูตรเมื่อคุณทำเสร็จ

   หากคุณคลิก คุณจะออกจากเซลล์ปัจจุบันโดยไม่ได้บันทึกการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ที่คุณทำ

คุณสามารถสร้างสูตรคำนวณแบบง่ายหรือแบบซับซ้อนเพื่อแสดงการคำนวณค่าในตารางของคุณได้

1. คลิกเซลล์ที่คุณต้องการให้ผลลัพธ์ปรากฏ จากนั้นป้อนเครื่องหมายเท่ากับ (=)

   ตัวแก้ไขสูตรจะเปิดขึ้น ลากด้านซ้ายของตัวแก้ไขสูตรเพื่อย้าย

   

2. เลือกเซลล์ที่จะใช้เป็นอาร์กิวเมนต์แรกในสูตรของคุณ หรือป้อนค่า (ตัวอย่างเช่น ตัวเลข เช่น 0 หรือ 5.20)

3. แตะตัวดำเนินการคำนวณ (ตัวอย่างเช่น +, -, * หรือ /) จากนั้นเลือกเซลล์ที่จะใช้เป็นอาร์กิวเมนต์ถัดไปในสูตรของคุณ หรือป้อนค่า

   ตามค่าเริ่มต้นแล้ว Numbers จะแทรก + ระหว่างการอ้างอิงเซลล์

4. เพิ่มตัวดำเนินการและอาร์กิวเมนต์ต่อจนกว่าสูตรของคุณจะสมบูรณ์ จากนั้นกด Return หรือคลิก ในตัวแก้ไขสูตรเมื่อคุณทำเสร็จ

   หากคุณคลิก คุณจะออกจากเซลล์ปัจจุบันโดยไม่ได้บันทึกการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ที่คุณทำ

คุณสามารถใช้ตัวดำเนินการเปรียบเทียบเพื่อตรวจสอบค่าในเซลล์ทั้งสองว่าเท่ากัน หรือค่าหนึ่งค่าใดมากกว่าหรือน้อยกว่าค่าอื่น ๆ ได้ ในการทำสิ่งนี้ คุณต้องตั้งค่าประพจน์ภายในเซลล์ ตัวอย่างเช่น A1 > A2 หมายความว่าค่าในเซลล์ A1 มากกว่าค่าในเซลล์ A2 ผลลัพธ์ของตัวดำเนินการเปรียบเทียบแสดงเป็น “true” หรือ “false”

1. คลิกเซลล์ที่คุณต้องการให้ผลการเปรียบเทียบปรากฏ จากนั้นป้อนเครื่องหมายเท่ากับ (=)

   ตัวแก้ไขสูตรจะเปิดขึ้น ลากด้านซ้ายของตัวแก้ไขสูตรเพื่อย้าย

   

2. เลือกเซลล์ที่มีค่าที่คุณต้องการเปรียบเทียบ หรือป้อนค่าเพื่อเปรียบเทียบ

3. ป้อนตัวดำเนินการเปรียบเทียบ (>, >=, =, <>, < หรือ <=) จากนั้นเลือกเซลล์ที่มีค่าที่คุณต้องการเปรียบเทียบ หรือป้อนค่าคงที่เพื่อเปรียบเทียบ

4. กด Return หรือคลิก ในตัวแก้ไขสูตรเมื่อคุณทำเสร็จ

   หากคุณคลิก คุณจะออกจากเซลล์ปัจจุบันโดยไม่ได้บันทึกการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ที่คุณทำ

คุณสามารถตั้งค่าการอ้างอิงแถวและคอลัมน์ในสูตรให้เป็นแบบสัมบูรณ์ เพื่อให้คุณสามารถใช้สูตรเดียวกันที่อื่นในกระดาษคำนวณของคุณได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนแปลงการอ้างอิงเซลล์

หากคุณไม่คงการอ้างอิงแถวหรือคอลัมน์ ในกรณีนั้นหากคุณย้ายสูตร (โดยการตัดและวาง หรือโดยการเพิ่มแถวหรือคอลัมน์ใหม่) การอ้างอิงจะปรับให้สัมพันธ์กับตำแหน่งใหม่ของสูตร

1. แตะสองครั้งที่เซลล์ผลลัพธ์ที่มีสูตรที่คุณต้องการแก้ไข

   ตัวแก้ไขสูตรจะเปิดขึ้นและแสดงฟังก์ชั่น ลากด้านซ้ายของตัวแก้ไขสูตรเพื่อย้าย

2. คลิกสามเหลี่ยมตรงโทเค็นที่แสดงถึงช่วงเซลล์ที่คุณต้องการคงไว้

   

3. เลือก คงแถวไว้ หรือ คงคอลัมน์ไว้ สำหรับที่อยู่เริ่มต้นหรือสิ้นสุดของช่วงที่เลือก

4. กด Return หรือคลิก ในตัวแก้ไขสูตรเมื่อคุณทำเสร็จ

   หากคุณคลิก คุณจะออกจากเซลล์ปัจจุบันโดยไม่ได้บันทึกการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ที่คุณทำ

หากคุณติดตั้ง MathType 6.7d ขึ้นไป คุณสามารถใช้เพื่อใส่นิพจน์ทางคณิตศาสตร์และสมการในกระดาษคำนวณของคุณ

1. คลิกตำแหน่งที่คุณต้องการให้สมการปรากฏ

2. เลือก แทรก > สมการ MathType (จากเมนูแทรก ที่ด้านบนสุดของหน้าจอคอมพิวเตอร์ของคุณ)

3. ป้อนหรือวางสมการของคุณในช่องที่ให้ไว้

   ดู วิธีใช้ MathType สำหรับขั้นตอนในการใช้เครื่องมือ MathType

4. ในการบันทึกสมการของคุณ ให้เลือก ไฟล์ > ปิดและย้อนกลับไปยัง Numbers (จากเมนูไฟล์ MathType ที่ด้านบนสุดของหน้าจอคอมพิวเตอร์ของคุณ) จากนั้นคลิก ใช่ ในหน้าต่างที่ปรากฏ

   สมการจะปรากฏเป็นรูปภาพที่จุดแทรกในกระดาษคำนวณของคุณ ในการแก้ไขสมการ ให้คลิกสองครั้งที่สมการเพื่อเปิด MathType อีกครั้ง

คุณสามารถเปลี่ยนลักษณะของสมการได้เช่นเดียวกับที่คุณทำกับรูปภาพอื่นในกระดาษคำนวณของคุณ